สาเหตุของผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานอย่างที่เราได้ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่ามันจะเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้เลย โดยร่างกายของเรานั้นก็ได้มีการเสียสมดุลของการนำน้ำตาลที่อยู่ในร่างกายไปใช้ให้เกิดประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
เมื่อน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดของเรามากที่สุดนั้น ก็จะทำให้ฮอร์โมนอินซูลินที่ถูกสร้างโดยตับอ่อนนั้นก็ไม่สามารถที่จะผลิตออกมาได้นั่นเองเลยส่งผลทำให้เรานั้นมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง เพราะฮอร์โมนอินซูลินนั้นก็ถือมีหน้าที่ในการช่วยให้ร่างกายของเรามีการเผาผลาญมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากมันไม่สามารถที่จะสร้างได้นั้นก็ย่อมจะทำให้ร่างกายของเราทำงานผิดปกติได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามนั้น “ชนิดของโรคเบาหวานที่เรารู้จักกันดีก็จะมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน” ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย
1. เบาหวานชนิดที่ 1 ถือเป็นโรคเบาหวานที่เกิดจากตับอ่อน โดยไม่สามารถที่จะสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้อย่างเพียงพอ เพราะมันโดนทำลายไปหมดแล้ว ซึ่งสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดนี้นั้นก็จะต้อง”ได้รับการฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกายกันอย่างต่อเนื่อง”หรืออาจจะมีการใช้เครื่องปั้มที่จะช่วยทำให้ฮอร์โมนอินซูลินกลับมานั่นเอง
2. เบาหวานชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานที่สามารถพบได้มากที่สุดเลยนะครับ โดยเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นก็เกิดจากสาเหตุที่ตัวของเรานั้นไม่สามารถที่จะสร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการเลยนะครับ เลยทำให้เกิดภาวการณ์ดื้ออินซูลินนั่นเอง โดยถ้าหากใครที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้นก็จำเป็นอย่างมากจะต้องมีการควบคุมอาหารที่ดีและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ “หรือบางรายนั้นก็อาจจะต้องมีการใช้ยาและยาฉีดอินซูลิน”เข้าร่วมด้วยนั่นเอง
อย่างไรก็ตามนั้นในทุกวันนี้ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยนั้นก็มักจะมีผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ที่เยอะกันเป็นอย่างมากเลยนะครับ โดยส่วนใหญ่นั้นการป่วยเป็นโรคเบาหวานก็เป็นได้ทั้งสองชนิด ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและปัจจัยในการใช้ชีวิต
การที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวาน
จริงๆแล้วมันก็มีสาเหตุอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน โดยบางครอบครัวนั้นก็อาจจะเกิดจาก“พันธุกรรม”ก็ได้ หรือบางคนอาจจะมี“น้ำหนักตัว”ที่มากจนเกินไป ทำให้เกิดเป็นโรคเบาหวานได้ในที่สุดหรือพฤติกรรมต่าง ๆในการใช้ชีวิตที่จะมีความเสี่ยงต่อการป่วยก็ได้เช่นกัน
เมื่อเราไม่สามารถที่จะปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตการกิน การอยู่ได้ดีนั้นก็ย่อมจะทำให้เราเกิดมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานได้ เพราะการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นก็ถือเป็นโรคที่ไม่สามารถจะรักษาให้หายขาดได้เลยนะครับ
โรคนี้เมื่อเราป่วยไปแล้วก็จะต้องทำใจด้วย และเราก็ยังคงสามารถที่จะใช้ชีวิตกับโรคเบาหวานได้อย่างปกตินั่นเอง สำหรับแนวทางในการรักษาโรคเบาหวานในทุกวันนี้นั้น การรักษาที่ดีและได้ผลมากที่สุดก็คือการพบแพทย์เพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้องและถูกวิธีโดยการที่เรานั้นก็จะต้องมีการเลือกกินอาหารที่ดีบวกกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะได้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนและระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง
แถมยังเป็นการดูแลตัวเองไปอีกทางหนึ่งก็ได้เช่นกัน แต่ก็ยังมีความน่าแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าถึงแม้ว่าโรคเบาหวานก็เป็นโรคที่น่ากลัวเป็นอย่างมากและยังมีโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้อย่างมากมายด้วย แต่สถิติการป่วยของโรคเบาหวานนั้นก็ยังน่ากลัวอยู่เหมือนกัน
เพราะในคนไทยนั้นก็ถือป่วยเป็นโรคเบาหวานกันเยอะมากจริงๆอย่างไรก็ตามนั้นในวันนี้เราก็อยากจะแนะนำและนำเสนอเกี่ยวกับโรคเบาหวานให้เราได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นเพราะจะได้เป็นแนวทางที่จะได้รู้สาเหตุและการดูแลเมื่อเราป่วยเป็นโรคนี้นั่นเอง
อาการของโรคเบาหวาน
โดยในระยะแรกๆ นั้นก็จะไม่ค่อยจะแสดงอาการอะไรให้เราเห็นสักหน่อยนะครับ เพราะบางรายนั้นเวลาที่จะตรวจพบนั้นก็มักจะมีภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆ เกิดขึ้นมาแล้วนั่นเอง ซึ่งโรคเบาหวานของแต่ละคนก็จะมีระดับที่แตกต่างกันออกไป
ส่วนใหญ่ที่เราเห็นได้ชัดก็จะมีอาการหิวน้ำบ่อยมาก ปากแห้ง มีอาการมือช้าต่างๆ ปัสสาวะบ่อย หรือบางรายนั้นก็มีน้ำหนักลดก็ได้เช่นกัน ซึ่งบางคนถ้าหากเป็นหนักๆ นั้นก็อาจจะมีอาการที่สายตาพร่ามัวอีกด้วยนั่นเองการที่เราป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นเราก็สามารถที่จะดูแลและรักษาตัวเองได้อยู่เหมือนกัน ซึ่งเราก็จะต้องเอาใจใส่ในเรื่องอาหารการกินให้มากๆ เพื่อที่สุขภาพและระดับน้ำตาลในเลือดของเราจะได้ปกติ
แต่ถ้าหากเราคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมปริมาณอาหารและมีการออกกำลังกายนั้นบางรายนั้นก็อาจจะเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้เยอะอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะถ้าหากในร่างกายของเรามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นอย่างมากนั้นและไม่มีการควบคุมที่ดีพอ ก็อาจจะส่งผลทำให้เส้นเลือดที่นำสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆร่างกายของเรานั้นก็อาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้เยอะเป็นอย่างมาก
โรคที่มักจะเกิดมาพร้อมกับโรคเบาหวาน
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรคที่ร้ายแรงเป็นอย่างมากเลย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน แถมยังส่งผลระบบประสาทและทำให้ผู้ป่วยนั้นต้องสูญเสียอวัยวะต่างๆ ไปเยอะมากนั่นเอง นอกจากนี้สำหรับผู้หญิงที่ตังท้องนั้นถ้าหากมีการป่วยเป็นโรคเบาหวานเข้าร่วมด้วยนั้นก็มักจะมีโอกาสที่จะแท้งลูกได้
ในแนวทางการรักษาโรคเบาหวานในทุกวันนี้นั้นหลาย ๆคนก็อาจจะต้องได้รับฮอร์โมนอินซูลินเข้าไปทดแทนในร่างกายด้วย ซึ่งก็จะเป็นการฉีดยาเป็นหลัก ควบคู่กับการออกกำลังกายที่ถูกต้องและถูกวิธีโดยเมื่อเรามีการออกกำลังกายแล้วนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากนั้นก็คือการควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อที่เรากินไปนั้น
เพราะถ้าหากเราเลือกกินอาหารที่ไม่ดีและไม่มีความเหมาะสมอะไรเลยก็ย่อมจะทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึง การควบคุมน้ำหนักของร่างกายของเรานั้นก็จะเป็นไปได้ยากนั่นเอง ซึ่งการรักษาสำหรับบางคนก็อาจจะต้องเข้าพบแพทย์อย่างเป็นประจำแทบทุกสัปดาห์ก็มีเหมือนกันถ้าหากเราไม่อยากที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นเราก็สามารถที่จะหาวิธีการป้องกันโรคเบาหวานได้ทุกรูปแบบเลยนะครับ
ซึ่งถ้าเรารู้ว่าเรากินเยอะหรือมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นเราก็จะต้องคอยหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสตอรอลซึ่งเราก็จะต้องควบคุมให้มันอยู่ในเกณฑ์ที่มันปกติให้ได้ เพราะถ้าเราไม่สามารถที่จะมีการควบคุมได้นั้นก็ย่อมจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเรามีสูงกว่าเกณฑ์
นอกจากนี้การออกกำลังกายอยู่เป็นประจำและสม่ำเสมอก็จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างมากเลยนะครับ เพราะการออกกำลังกายนั้นนอกจากจะทำให้ช่วยเรื่องของการเผาผลาญแล้วนั้นก็ยังสามารถที่จะทำให้สุขภาพและร่างกายของเรายังคงแข็งแรงอยู่ด้วยนั่นเอง และเราก็จะต้องมีการพบแพทย์อยู่สม่ำเสมออยู่เป็นประจำด้วย
เพื่อที่จะได้รับการตรวจกรองระดับเบาหวานถ้าหากแพทย์พบว่าเรามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ นั้น เราก็จะได้สามารถที่จะรักษาได้อย่างทันเวลานั่นเองอย่างไรก็ตามนั้นเรามาดูกันดีกว่านะครับว่าสัญญาณที่เราจะต้องระวังว่าเราจะป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นจะมีอะไรบ้าง ซึ่งในวันนี้เราก็ได้สรุปวิธีกันมาแล้ว ก็ไม่ยากอย่างที่คิด แต่ถ้าหากใครที่มีความเสี่ยงดังต่อไปนี้นั้นก็ลองไปพบแพทย์เอที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้องและถูกวิธีกันต่อไป เอาเป็นว่าจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย
5 อาการเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
1. ปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือมีการหิวน้ำที่บ่อยขึ้น ซึ่งถ้าหากเรามีการสังเกตว่าร่างกายของเรามีสิ่งที่บอก บ่อยขึ้นนั้นก็หมายความว่า“เราอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นโรคเบาหวาน”ได้เหมือนกันนะครับ เมื่อร่างกายของเรามีการปัสสาวะที่บ่อยๆ นั้นก็ทำให้เราหิวน้ำบ่อยขึ้น โดยถ้าเรามีความสงสัยเราก็สามารถที่จะไปพบแพทย์เพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้องและถูกวิธี
2. น้ำหนักตัวลด การที่ร่างกายของเราน้ำหนักลดแบบไม่มีสาเหตุนั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่จะเตือนว่าเรานั้นอาจจะป่วยเป็นโรคเบาหวานได้ โดยถ้าหากเรามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงมากนั้นก็อาจจะทำให้น้ำหนักของเราลดมากถึง 5-10 กิโลกรัมได้นั่นเอง
3. กินบ่อย หิวบ่อย ถ้าอยู่ดีๆ แล้วเรารู้สึกว่ากินจุบจิบที่บ่อยเป็นอย่างมากและไม่มีสาเหตุมาก่อนนั้น ก็อาจจะทำให้เรากำลังจะป่วยเป็นโรคเบาหวานได้เหมือนกันนะครับ เพราะถ้าหากระดับน้ำตาลในเลือดของเราต่ำนั้น ร่างกายของเราก็อาจจะต้องมีการส่งสัญญาณมาว่าหิวนั่นเอง มันก็เลยส่งผลทำให้เราเกิดอาการหิวบ่อยไปโดยปริยาย
4. บาดแผลหายช้า ถ้าหากเรารู้สึกว่าเมื่อเรามีบาดแผลไม่ว่าจะที่ใดก็ตามแต่นั้นแล้วเกิดหายช้าหรือมีการติดเชื้อนั้น ซึ่ง เราก็กำลังเผชิญอยู่กับโรคเบาหวานแล้วนะครับ เพราะถ้าหากระดับน้ำตาลในเลือดของเราขึ้นสูงอยู่ผิดปกตินั้น หรือเรามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงนั้นมันจะไปสร้างความเสียหายให้กับหลอดเลือดของเรา โดยมันก็ทำให้เลือดนั้นไปเลี้ยงที่บริเวณแผลของเราได้น้อยลงนั่นเอง เลยทำให้แผลของเรานั้นหายช้า และบางรายถ้าหากไม่มีการดูแลรักษาที่ดีนั้นก็อาจจะทำให้บาดแผลต่างๆ ของเราติดเชื้อได้นั่นเอง
5. มีอาการชาตามมือและเท้า ถ้าหากเรารู้สึกว่าเรามีอาการชาตามปลายมือและเท้านั้น ก็สันนิฐานไว้ได้ก่อนเลยนะครับว่าเราอาจจะมีความเสี่ยงในการที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานนะครับเพราะถ้าในร่างกายของเรามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นอย่างมากนั้นมันก็จะเข้าไปทำลายระบบการทำงานของระบบประสาทของเราได้ ซึ่งถ้าหากเรามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่ในระยาวนานนั้น วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดนั้นก็คือการที่เราจะต้องมีการควบคุมระดับเบาหวานให้อยู่ในระดับที่ปกติให้ได้ “ควรที่จะต้องเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์”โดยอาหารที่บำรุงประสาทถือจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากนั่นเอง