อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต
เมื่อเราป่วยเป็นโรคไตนั้น แน่นอนประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ ของไตเรานั้นก็จะทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันก็จะทำให้การขับของเสียต่างๆ ในร่างกายของเราออกมาได้น้อย ดังนั้นสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตนั้นก็จะต้องดูแลตัวเองให้ดีๆด้วย โดยเฉพาะในเรื่องการรับประทานอาหารต่างๆ นั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคไตก็จะต้องใส่ใจในเรื่องอาหารให้ดีด้วย เพราะในอาหารบางชนิดนั้นก็มีสารหรือแร่ธาตุต่างๆ ในปริมาณที่สูงเป็นอย่างมาก
แน่นอนเมื่อเรากินไม่ดี ไม่เลือกกินนั้นก็จะทำให้เกิดโทษกับผู้ป่วยโรคไตได้ ถ้าเราเราเป็นโรคไตในระยะสุดท้ายนั้นแน่นอนเราก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมต่างๆ เพื่อลดการคั่งน้ำและของเสียที่อยู่ในร่างกายของเรา ซึ่งในระหว่างที่เรากำลังฟอกเลือดอยู่นั้นแน่นอนการเสียพลังงานต่างๆ นั้นก็จะต้องเสียโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่มากมายหลากหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งมันก็เลยทำให้ผู้ป่วยนั้นส่งผลที่ทำให้เกิดสภาวะการขาดสารอาหาร
ดังนั้นสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตนั้น เมื่อเราไปทำการฟอกไตก็ควรที่จะต้องทำให้ร่างกายนั้นได้รับสารอาหารที่เพียงพอด้วย เพื่อที่จะได้ลดสภาวะการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยอาจจะรับประทานเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ที่ไม่มีหนังติดด้วย ไข่ขาววันละ 2-3 ฟอง และในการประกอบอาหารนั้นก็ควรที่จะเลือกใช้น้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันมะกอกเท่านั้น คาร์โบไฮเดรตไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตก็ควรที่จะต้องได้รับอย่างเหมาะสมด้วยเพื่อให้เพียงพอทุกมื้อ
สิ่งที่ไม่ควรรับประทาน
ไม่ควรที่จะกินของหมัก ของดองต่างๆ เช่น ไข่เค็ม ปลาเค็ม ปลาร้า รวมถึงอาหารแปรรูปชนิดต่างๆ นั้นก็ไม่ควรด้วยเพราะอาหารพวกนี้นั้นก็จะมีปริมาณโซเดียมที่เยอะมาก รวมไปถึงอาหารที่มีฟอรัสสูง ไม่ว่าจะเป็น นม เครื่องในสัตว์ ถั่ว งา กาแฟ ก็ควรที่จะงดไปเลย เอาเป็นว่าการที่จะเลือกกินอะไรก็ตามแต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตก็ควรที่จะต้องเลือกในปริมาณที่เหมาะสมด้วย
ถ้าหากรับประทานน้อยจนเกินไปนั้น ก็อาจจะทำให้น้ำหนักตัวของเราสามารถที่จะลดลงได้เยอะเป็นอย่างมาก ทำให้มีการสลายของกล้ามเนื้อมากยิ่งขึ้น และอาจจะทำให้เราเกิดสภาวะแทรกซ้อนของโรคต่างๆ ได้เยอะมากยิ่งขึ้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตนั้นก็ควรที่จะต้องใส่ใจกับเรื่องอาหารการกินให้มากๆ ด้วย ในวันนี้เราก็มีอาหารสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคไตกันมาฝากอาหารชนิดไหนที่ควรทานไม่ควรทานแล้วควรทานมากน้อยขนาดไหน ไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาดูกันเลย
1.อาหารประเภทโปรตีนชนิดต่างๆ แน่นอนว่าโปรตีนนั้นก็คือสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายเราเป็นอย่างมากเลย ซึ่งการที่เรารับประทานโปรตีนเข้าไปนั้นมันก็จะถูกเปลี่ยนเป็น เป็นกรดอะมิโนและไนโตรเจน ซึ่งมันเป็นส่วนที่ไม่มีความจำเป็นโดยเฉพาะ ไนโตรเจน นั้นก็มักจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ
ดังนั้นถ้าเรากินโปรตีนมากๆ นั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไรเลย เพราะถ้ากินมากไปมันก็จะทำให้มีของเสียผ่านที่ไตจำนวนมากเท่านั้น แถมยังเป็นการทำให้ไตของเราทำงานที่หนักอีกด้วย ดังนั้นก็ควรที่จะกินโปรตีนแค่พอดีเท่านั้น ควรที่จะเลือกโปรตีนที่เป็นพวกปลาชนิดต่างๆ เพราะในปลานั้นยิ่งเป็นปลาแซลมอนก็เป็นส่วนที่ดีเพราะในปลาแซลมอนมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เยอะเป็นอย่างมาก แถมราคาก็สามารถที่จะจับต้องได้อีกด้วย ทำเมนูอะไรก็อร่อยไปอีก
2.อาหารประเภทข้าวและแป้ง แน่นอนว่าแป้งหรือว่าข้าวนั้นก็ถือเป็นแหล่งพลังงานสารอาหารที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเลย โดยเฉพาะพวกเข้าเจ้า ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยวประเภทต่างๆ เป็นต้น อาหารดังกล่าวนั้นก็มักจะมีส่วนผสมของแป้งอยู่เช่นกัน ซึ่งบางชนิดก็มีโปรตีนใส่ลงไปด้วย โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยว
แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตแล้วจะต้องมีการจำกัดโปรตีนที่รับประทานในแต่ละวันนั้นก็อาจจะใช้แป้งปลอดโปรตีนเข้ามาด้วยก็ได้ เช่น วุ้นเส้น หรือเส้นบุกชนิดต่างๆ เพราะแป้งประเภทนี้นั้นก็ไม่มีส่วนผสมของโปรตีนอะไร เพื่อให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตนั้นสามารถที่จะได้รับพลังงานอาหารที่ได้มากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
3.อาหารที่มีคอเลสเตอรอลที่สูงมาก ทุกวันนี้นั้นอาหารตามร้านต่างๆ โดยเฉพาะพวกขนมเบอเกอรี่ชนิดต่างๆ นั้นก็มักจะมีส่วนผสมของไขมันต่างๆ ที่เยอะอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะกะทิ น้ำมันปาล์ม มันหมู มันไก่ รวมถึงไขมันทรานส์ เช่น เนยชนิดต่างๆ ที่มันเป็นส่วนผสมหลักของการทำขนม
โดยผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคไตนั้นก็ไม่ควรที่จะต้องบริโภคมากจนเกินไปเพราะมันอาจจะทำให้ไตของเราทำงานที่หนักมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าหากเราจะเลือกรับประทานอาหารประเภทนี้ก็ควรที่จะเลือกใช้นำมันแบบไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวมาประกอบอาหารเช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก เป็นต้นถึงแม้ว่าพวกขนมชนิดต่างๆ มักจะมีความอร่อยแต่ก็ต้องดูดีๆ ด้วยว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้แหละมักจะก่อให้เราเกิดเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
4.อาหารแปรรูปหรืออาหารสำเร็จรูปชนิดต่างๆ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตนั้นก็ไม่ควรที่จะรับประทานอาหารแปรรูปหรืออาหารสำเร็จรูปมากนัก ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่ทำมาจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด
ไม่ควรที่จะรับประทานอาหารแปรรูปเป็นหลัก เช่น หมูแฮม กุนเชียง หมูยก ไส้กรอก เป็นต้น รวมถึงอาหารสำเร็จรูปตามร้านสะดวกซื้อนั้น ก็ไม่ควรที่จะรับประทานเยอะนัก เพราะอาหารเหล่านี้นั้นก็อาจจะมีปริมาณโซเดียมและไขมันที่สูงถึงแม้ว่าอาหารต่างๆ เหล่านี้นั้นจะมีความสะดวกสบายในการรับประทานเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากเรากินบ่อยๆ มันก็อาจจะทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบได้
5.อาหารที่มีโซเดียมที่สูงมาก แน่นอว่าโซเดียมก็ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่เป็นตัวร้ายของผู้ป่วยโรคไต ดังนั้นสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตอยู่นั้นก็ควรที่จะต้องเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียวด้วย เช่น เครื่องปรุงรสต่างๆ อาหารดอง อาหารแปรรูป เครื่องเทศชนิดต่างๆ นั้น ที่ช่วยทำให้อาหารของเราชูรสชาติที่มีความอร่อยมากยิ่งขึ้น
แต่ถ้าใครที่มีโรคความดันโลหิตร่วมด้วยนั้นการรับประทานโซเดียมก็จะต้องมีการจำกัดปริมาณในแต่ละวันด้วย ไม่ควรที่จะกินอาหารที่มีรสชาติที่เค็มจัดด้วย เพราะการกินเค็มนอกจากจะไม่อร่อยแล้วนั้นก็ยังเป็นผลเสียต่อระบบภายในของร่างกายของเราอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากเรามีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดปริมาณของโซเดียมชนิดต่างๆนั้นก็ควรที่จะหันมาใช้พวกสมุนไพรไทยกันดีกว่าไม่ว่าจะเป็น ตะไคร้ กระชาย รากผักชี อบเชย กระเทียม พริก และอื่นๆ อีกมากมายนั้นก็ยังจะเป็นสิ่งที่สามารถชูรสชาติอาหารของเราให้มีความนัว มีความอร่อยมากยิ่งขึ้นได้
6.อาหารที่มีฟอสฟอรัสที่สูงและโพแทสเซียมที่สูง ถ้าหากในร่างกายของเรามีฟอสฟอรัสในเลือดที่เยอะเป็นอย่างมากนั้น ก็ควรที่จะต้องงดรับประทานไข่แดงกัน แม้กระทั้งนมทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น นมวัว นมควาย นมเปรี้ยว โยเกิร์ต เนย ปลาทั้งกระดูก น้ำอัดลม และอื่นๆ อีกมากมายนั้น ควรที่จะต้องงดและตัดขาดไปเลยเรียกได้ว่าถ้ามีฟอสฟอรัสที่สูงก็จะต้องจัดขาดจากอาหารดังกล่าวไปเลยซึ่งผู้ป่วยเป็นโรคไตนั้นก็จะต้องดูในเรื่องตรงนี้ด้วยเพราะบางทีอาจจะได้รับผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเรา
สำหรับอาหารที่มีโพแทสเซียมที่เยอะนั้น ที่อยู่ในฟักทอง มันฝรั่ง มะเขือเทศ และอื่นๆ อีกเยอะ ก็ไม่ควรที่จะกินเลยควรที่จะเลือกกินพวก แตงกวา มะเขือยาว เป็นต้น ถ้าเราทำได้โรคไตของเราก็จะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและอยู่ในสภาพวะที่ปกติ
7.อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรืออาหารที่มีรสชาติที่หวานจัด สำหรับผู้ป่วยโรคไตที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นก็จะต้องลดปริมาณของหวานด้วย โดยเฉพาะขนมที่มีส่วนผสมของกะทิเป็นหลัก ขนมที่มีเนย ซึ่งพวกนี้นิแหละถือเป็นอาหารที่มีฟอสฟอรัสที่สูงเป็นอย่างมาก
ซึ่งก็ไม่ควรที่จะกินหวานจัดมากจนเกินไปดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตนั้นก็ไม่ควรที่จะกินเกินวันละ 6 ช้อนด้วยกัน รวมถึงเครื่องดื่มน้ำหวานไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม น้ำหวาน เป็นต้น พวกนี้นั้นมันก็อาจจะส่งผลทำให้ไตของเราสามารถที่จะเสื่อมได้เช่นกัน การที่เราจะดื่มน้ำหรือหาน้ำกินนั้นก็ควรที่จะเลือกดื่มน้ำเปล่าจะดีที่สุด เพราะน้ำเปล่านั้นถือเป็นน้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราที่สูงมาก
8.อาหารที่มีกระยูริกที่สูงเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่ได้ป่วยเป็นโรคไตแล้วดันมีระดับกรดยูริกที่สูงเกินเกณฑ์นั้น แน่นอนอาหารที่ควรจะต้องหลีกเลี่ยงก็จะเป็นพวกสัตว์ปีกทุกชนิด ยอดผัก เช่น ผักตำลึง หน่อไม้ฝรั่ง และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงจะต้องรับประทานอาหารที่มีไขมันที่ต่ำ
เพราะการที่เรากินอาหารที่มีไขมันเยอะๆนั้นมันก็ไม่สามารถที่จะทำให้กรดยูริกนั้นสามารถที่จะขับถ่ายผ่านทางปัสสาวะได้ ดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต ก็ควรที่จะต้องงดเว้นอาหารประเภทนี้ด้วย ถ้าหากเรายังกินตามปกติอยู่นั้นก็อาจจะทำให้เกิดเป็นภาวะโรคไตที่สูงได้เช่นกัน
สรุป:
อย่างไรก็ตามนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานก็จะต้องมีการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองด้วย โดยหลักๆ นั้นพื้นฐานก็จะต้องงดบุหรี่ กาแฟ เครื่องดื่มสุราชนิดต่างๆ ให้ได้ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้นั้นก็เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เรานั้นเกิดเป็นไตรกลีเซอไรค์ที่สูงได้เช่นกัน ควรที่จะเน้นรับประทานอาหารที่มีกากใยเยอะๆ เพราะมันจะทำให้การขับถ่ายของเรานั้นมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้นั้นถ้าหากเรามีการออกกำลังกายที่ดีและถูกต้องถูกวิธีแล้วนั้นมันก็จะส่งผลดีต่อร่างกายของเราอย่างเห็นได้ชัด รวมถึง การนอนหลับพักผ่อนต่างๆ ก็ควรที่จะต้องนอนเร็วด้วยควรที่จะต้องนอนให้ได้วันละ 7-9 ชั่วโมงด้วยกัน ดังนั้นถ้าใครที่ป่วยเป็นโรคไตก็ควรที่จะต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดีด้วยเพื่อที่สุขภาพและร่างกายของเรานั้นจะได้แข็งแรงถ้าหากร่างกายของเราไม่มีความแข็งแรง การรักษาโรคไตด้วยวิธีการต่างๆ นั้นก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้