อาการทางจิต เป็นอาการที่หลายคนคิดว่า เป็นแค่เพียงชั่ววูบเท่านั้นและละเลยที่จะไปพบจิตแพทย์ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านการรักษาต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าที่แท้จริงแล้วอาการ เหล่านี้ ก็ถือเป็นโรคที่จะต้องเร่งทำการรักษากันอย่างเร่งด่วน
จิตแพทย์ไม่ใช่แพทย์ที่มีไว้สำหรับรักษาคนบ้าเท่านั้น
แต่ก็ยังสามารถที่จะให้คำปรึกษาและรักษาปัญหาทางจิต ได้ด้วย สำหรับความรู้สึกของคนไทยมักจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับจิตแพทย์ดีเท่าที่ควร เพราะเมื่อบุคคลใดก็ตามเมื่อไปรักษาหรือปรึกษาจิตแพทย์ ก็จะให้คำนิยามว่า เป็นบ้า บ้าง แต่ในความเป็นจริงจิตแพทย์เป็นวิชาชีพชนิดหนึ่งที่อยู่ในสาขาทางด้านสุขภาพจิต จะมีหน้าที่ในการช่วยบำบัดรักษาวินิจฉัยรวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติในด้านจิตใจและให้คำแนะนำสำหรับบุคคลทั่วที่มีปัญหาเกี่ยวกับจิตใจด้วย
แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่ามีอาการแบบไหนที่ควรจะต้องทำการพบจิตแพทย์เสียก่อน
1.เครียดซึมเศร้า
คนไทยบางส่วนไม่รู้ว่าอาการเครียดมีอยู่ทุกคน บางคนก็เครียดน้อย บางคนเครียดมาก ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม รวมถึงจิตใจของแต่ละคนซึ่งอาการเหล่านี้สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ในวัยเรียน วัยทำงาน และวัยสร้างเนื้อสร้างตัว รวมถึงการสร้างครอบครัว แม้กระทั้งผู้สูงอายุ ก็ยังสามารถที่จะเกิดความเครียดได้
ความเครียด ทำให้รู้สึกแย่ ปวดหัว วิตกกังวล กินไม่ได้นอนไม่หลับ บางคนถึงกับไปเรียนและทำงานไม่ได้เลย แต่ถ้าหากเอาอาการเหล่านี้มาคิดหรือมาใส่ใจ จะทำให้เราไม่สามารถที่จะหาทางออกได้ หากรู้สึกว่ามีอาการ ควรที่จะต้องรีบไปปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้องต่อไป
2.มีความหวาดกลัวอย่างรุนแรงและไม่มีสาเหตุ
ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่น่ากลัว เพราะจะมีความรู้สึกที่คิดได้เอง โดยหลักๆ อาการเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นจากสภาพภายในจิตใจและบุคคลภายนอกที่สังเกตเห็นได้ชัด โดยจะเกิดเมื่อคนไข้มีเรื่องคาดหวังสำคัญมากกับเรื่องในอนาคตและกลัวว่าจะไม่เป็นไปตามคาดหวังไว้ ทำให้มีความหวาดระแวง
3.นอนไม่หลับ
มีอาการเบื่ออาหาร อาการเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นกับทุกคน โดยจะเกิดขึ้นแค่บางคนเท่านั้น บางคนก็มีอาการปวดหัว ใจสั่น มือสั่น มีเหงื่อออกจำนวนมาก ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นความผิดปกติของสารเคมีในสมองบางตัว จะมากหรือจะน้อยขึ้นอยู่กับสภาพจิตของผู้ที่ป่วย
4.ได้ยินเสียงแว่ว หรือ อาจจะเห็นภาพหลอน
เป็นอาการหลอนทางประสาท ได้ยินเสียงคนเรียกมาแต่ไกลๆ แต่กลับไม่เห็นตัวตน หรืออาจจะได้ยินเสียงคนพูดกัน ซึ่งเสียงอาจจะสั่งให้เราทำอะไรบ้างอย่างก็ได้ และบางรายถ้ามีอาการหนักๆ อาจจะเห็นภาพคนอื่นเดินวนไปวินมาอยู่ในบ้านก็เป็นไปได้
5.บุคลิกภาพเปลี่ยนไป
บางคนอาจจะเก็บตัวไม่เข้าสังคม เหนื่อยหน่าย ท้อแท้ ในขณะที่บางรายอาจจะมีการหมกมุ่นและสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเป็นพิเศษ
ดังนั้น ถ้าหากใครที่มีบุคคลิกภาพที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากๆ ควรที่จะต้องปรึกษาแพทย์ หากไม่ปรึกษาแพทย์อาจจะทำให้เราไม่สามารถรักษาได้อย่างถูกต้อง จนอาจจะนำไปสู่ความผิดปกติ หรือ อาจจะเกิดโรค ได้ในอนาคต
6.มีคนสนิทหรือใกล้ตัวเตือนอยู่บ่อยครั้ง
ถ้าหากสนิทกับเรา มากๆอาจจะสังเกตุหรือพบเห็นพฤติกรรมของเราที่เปลี่ยนไป เช่น จากที่คนไม่ชอบพูด ก็กับการเป็นคนเฮฮาปาร์ตี้ พูดเยอะ กล้าแสดงออก หรือบางคนที่มีอาการเฮฮามาก่อนหน้านี้แล้วกลายเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่พูดไม่จา และไม่มีอาการอะไรเลย และถ้าหากรุนแรงๆ มากๆ ก็อาจจะเกิดอาการหงุดหงินง่าย และมีอาการก้าวร้าวที่อาจจะเกิดขึ้นก็ได้
7.ติดเหล้า ติดสารเสพติด
เมื่อผู้ป่วยบางคนไม่สามารถที่จะหาทางออกได้อย่างจริงจัง อาจจะต้องไปพึ่งพวกสารเสพติดหรือสุรา เพราะการติดพวกนี้จะทำให้ขาดสติ และสามารถที่จะลืมสิ่งที่เข้ามาในชีวิตได้ แต่ถ้าหากไปปรึกษาแพทย์มาเป็นที่เรียบร้อย ทางแพทย์จะมีการสอบถามประวัติต่างๆ อย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะได้สามารถอยู่รวมกับคนอื่นๆ ได้ โดยแพทย์ก็จะวิธีให้คำแนะนำ การแก้ไขปัญหา รวมถึงอาจจะต้องมีการใช้ยาบางชนิดเข้าร่วมด้วย
ฉะนั้น หากใครมีพฤติกรรมดังกล่าวก็ควรที่จะต้องเร่งปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน ที่จะได้ป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ภายหลัง และทำให้เราได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและถูกต้องมากที่สุด